:: โพลล์เผยความรู้สึกเยาวชนไทยต่อข่าวพระสงฆ์   / วันที่ 17 กรกฎาคม 2556
                                                                                                                                                                                                              พิมพ์หน้านี้
 

    ศ. ศรีศักดิ์ จามรมาน ประธานกรรมการอาวุโส,อาจารย์พรพิสุทธิ์ มงคลวนิช ประธานกรรมการ,ดร.พิสิฐ พฤกษ์สถาพร กรรมการรองผู้อำนวยการและดร.กุลธิดา เสาวภาคย์พงศ์ชัย กรรมการรองผู้อำนวยการ สำนักวิจัยสยามเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตโพลล์ แถลงผลการสำรวจความรู้สึกของเยาวชนไทยในเขตกรุงเทพฯต่อข่าวพระสงฆ์ทำผิดกฎหมาย ระเบียบและข้อบังคับตามวินัยสงฆ์


สำนักวิจัยสยามอินเตอร์เน็ตโพลล์ได้ติดตามข่าวสารในรอบหนึ่งเดือนที่ผ่านมา พบข่าวเกี่ยวกับพระสงฆ์ที่มีพฤติกรรมส่อไปในทางผิดกฎหมาย พระวินัยหรือข้อบังคับของสงฆ์หลายข่าว จนทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมอย่างกว้างขวางว่า ข่าวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นนี้อาจส่งผลให้ความศรัทธาในพระพุทธศาสนาลดน้อยถอยลงโดยเฉพาะกับกลุ่มวัยรุ่นที่เข้าถึงข่าวสารข้อมูลต่าง ๆ ผ่านเทคโนโลยีทางการสื่อสารได้รวดเร็วกว่าประชาชนกลุ่มอื่น ประกอบกับวิถีการดำรงชีวิตของกลุ่มวัยรุ่นในปัจจุบันมีความผูกพันกับวัดและพระพุทธศาสนาน้อยลง

ทั้งนี้ เนื่องจากพระสงฆ์ถือเป็นผู้ทำหน้าที่เผยแผ่หลักธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนาและช่วยสืบต่อพระพุทธศาสนาให้มีความมั่นคงถาวรต่อไป นอกจากนี้ พระสงฆ์ยังทำหน้าที่ขัดเกลาจิตใจของคนในสังคมและเป็นตัวอย่างในการปฏิบัติดีปฏิบัติชอบให้ผู้คนในสังคมได้ปฏิบัติตาม ดังนั้น เมื่อมีข่าวเกี่ยวกับกรณีที่พระสงฆ์มีความประพฤติหรือพฤติกรรมส่อไปในทางการกระทำผิดเสียเอง สังคมจึงมักตั้งข้อสังเกตว่าข่าวต่าง ๆ เหล่านี้ อาจส่งผลให้ความศรัทธาในพระพุทธศาสนานั้นเสื่อมลงโดยเฉพาะกับกลุ่มคนรุ่นใหม่ อย่างไรก็ตาม ผู้คนอีกส่วนหนึ่งก็มีความเห็นว่าข่าวต่างๆ ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องเฉพาะตัวบุคคลซึ่งไม่น่าจะส่งผลกระทบกับความศรัทธาต่อพระพุทธศาสนา พระธรรมคำสั่งสอน หรือต่อพระสงฆ์โดยรวม

สำนักวิจัยสยามเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตโพลล์ วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม(ระดับอุดมศึกษา) สำรวจความคิดเห็นของเยาวชนไทยในเขตกรุงเทพฯ จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ประกาศนียบัตรวิชาชีพ หรือเทียบเท่า ระหว่างวันที่ 8-12 กรกฎาคม 2556 จำนวน 1,028 คน ด้วยระบบเฉพาะเจาะจง (Purposive Sampling) ในเขตกรุงเทพมหานคร เกี่ยวกับความสนใจต่อข่าวพระสงฆ์ทำผิดกฎหมาย ผิดข้อบังคับและวินัยสงฆ์

ศ.ศรีศักดิ์ กล่าวว่า จากการสำรวจกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 69.84 ให้ความสนใจติดตามข่าวเกี่ยวกับพระสงฆ์ที่ประพฤติผิดกฎหมาย/พระวินัย/ข้อบังคับสงฆ์ สำหรับความรู้สึกต่อข่าว กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 35.12 รู้สึกหดหู่และเศร้าใจ ขณะที่ ร้อยละ 21.30 รู้สึกสงสัยต่อข้อเท็จจริง นอกจากนี้ กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 87.94 แสดงความคิดเห็นว่า เหตุปัจจัยที่ส่งผลให้พระสงฆ์ประพฤติผิดกฎหมาย/พระวินัย/ข้อบังคับสงฆ์ คือ ความมีกิเลสในตัวเอง รองลงมาคือ การปฏิบัติตัวของญาติโยม เช่น การถวายปัจจัย/สิ่งของ คิดเป็นร้อยละ 82.98 และ การปฏิบัติตัวของลูกศิษย์/ผู้ใกล้ชิด คิดเป็นร้อยละ 79.47

ส่วนความคิดเห็นต่อผลกระทบจากข่าวเกี่ยวกับพระสงฆ์ที่ประพฤติผิดกฎหมาย/พระวินัย/ข้อบังคับสงฆ์ กลุ่มตัวอย่างเกือบสามในสี่หรือคิดเป็นร้อยละ 74.22 ระบุว่า ข่าวที่เกิดขึ้นไม่ส่งผลให้ตนเองเสื่อมความเคารพและศรัทธาในพระพุทธศาสนา ขณะที่ กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 67.9 ระบุว่า ไม่ส่งผลให้ตนเองทำบุญกับพระสงฆ์ เช่น การตักบาตร การถวายปัจจัย/สิ่งของ น้อยลง อย่างไรก็ตาม กลุ่มตัวอย่างประมาณหนึ่งในห้าหรือคิดเป็นร้อยละ 20.04 ระบุว่า ส่งผลให้ตนเองทำบุญกับพระสงฆ์น้อยลง กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 64.11 ระบุว่า ไม่ส่งผลให้ตนเองเสื่อมความเคารพและศรัทธาในสถาบันสงฆ์โดยรวม และ กลุ่มตัวอย่างประมาณสองในสามหรือคิดเป็นร้อยละ 68.58 ระบุว่า ไม่ได้ส่งผลให้ตนเองเดินทางไปวัดน้อยลง

การสำรวจนี้พบว่ากลุ่มตัวอย่างมากกว่าหนึ่งในสี่ของกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด ระบุว่า ข่าวที่เกิดขึ้นส่งผลให้ตนเองร่วมทำบุญ เช่น การร่วมสร้างพระพุทธรูป/ถาวรวัตถุทางศาสนาต่างๆ การทอดผ้าป่า น้อยลง และ ส่งผลให้ตนเองตัดสินใจไม่เดินทางไปทำบุญยังวัดที่พระสงฆ์รูปนั้น ๆ จำพรรษาอยู่

ที่มา: http://www.ryt9.com/s/prg/1693241
ข่าวทั่วไป ThaiPR.net -- อังคารที่ 16 กรกฎาคม 2556 10:53:20 น.
กรุงเทพฯ--16 ก.ค.--วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม
 





www.ipsr.mahidol.ac.th - Revised: 28 สิงหาคม 2552
Copyright ©สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม
73170  โทรศัพท์ 02-441-0201-4 โทรสาร 02-441-9333 Web master : prwww@mahidol.ac.th